เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกท่าน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำพาสิ่งของที่เป็นวัตถุอันตรายบนทุกเที่ยวบินของการบินไทย ไม่ว่าจะบรรจุในสัมภาระชนิดต่าง ๆ หรือ พกติดตัว ซึ่งวัตถุอันตรายนั้นหมายถึง วัตถุหรือสารซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และ ทรัพย์สิน หรือสภาพแวดล้อม โดยแบ่งได้ 9 ประเภทดังนี้
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เงื่อนไข
- มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ ระหว่าง 24% ถึง 70% (หากต่ำกว่า 24% ไม่ถือว่าเป็นวัตถุอันตราย และหากเกิน 70 % ไม่อนุญาตในทุกกรณี)
- ในบรรจุภัณฑ์ขายปลีกขนาดไม่เกิน 1 ลิตร
- สามารถนำไปได้รวมทั้งหมดไม่เกิน 1 ลิตร ต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน
- ทั้งนี้ต้องไม่เกินข้อจำกัดของศุลกากรแต่ละประเทศ
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
อาวุธช๊อตไฟฟ้าชนิดต่างๆ เช่น ปืนไฟฟ้า กระบองไฟฟ้า รวมถึงไม้ช๊อตยุงไฟฟ้า
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
ดอกไม้ไฟ พลุ ไฟเย็น
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
อุปกรณ์ป้องกันตัว เช่น สเปรย์พริกไทย แก๊สน้ำตา หรือ สารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่าง ๆ
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ไม่อนุญาต
เครื่องกระสุน หรือ แมกกาซีนบรรจุกระสุน สำหรับใช้ในการกีฬา
เงื่อนไข
- จัดเก็บในภาชนะบรรจุหรือหีบห่ออย่างปลอดภัย
- มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 5 กิโลกรัมต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน
- ไม่สามารถรวมน้ำหนักกับผู้โดยสารท่านอื่นได้
- ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานในกรณีที่เริ่มเดินทางจากท่าอากาศยานในประเทศไทยตามประกาศสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตให้คนโดยสารพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และสิ่งเทียมอาวุธปืนไปกับอากาศยาน พ.ศ. 2561
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ไม่อนุญาต
ผลิตภัณฑ์ยาที่ไม่มีกัมมันตรังสีและเครื่องสำอาง
เงื่อนไข
- ผลิตภัณฑ์ยาที่ไม่มีกัมมันตรังสีและเครื่องสำอาง ถ้าเป็นรูปแบบกระป๋องสเปรย์ต้องบรรจุก๊าซที่ไม่ติดไฟและไม่เป็นพิษ (Division 2.2) เท่านั้น น้ำหนักรวมทุกรายการ ไม่เกิน 2 กิโลกรัม หรือ 2 ลิตร ต่อผู้โดยสาร 1 ท่าน
- ผู้โดยสารสามารถนำขึ้นเครื่องได้ท่านละไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม หรือ 0.5 ลิตร ต่อหนึ่งรายการ
- หัวฉีดสเปรย์จะต้องได้รับการปิดผนึกอย่างหนาแน่นเพื่อป้องกันการรั่วซึม
หมายเหตุ: ให้คำนึงถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับของเหลว เจล สเปรย์ (The LAGS regulations) ด้วย
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
ถังออกซิเจนหรือถังอัดอากาศ
ถังออกซิเจน หรือ ถังอัดอากาศ หรือ ออกซิเจนเหลว ทุกประเภทสำหรับใช้กับผู้ป่วย ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องในทุกรณี หากผู้โดยสารมีความจำเป็นต้องใช้งาน การบินไทยมีอุปกรณ์ดังกล่าวให้บริการ โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อแจ้งความประสงค์
หมายเหตุ: ถังอากาศสำหรับดำน้ำไม่รวมอยู่ในข้อห้ามนี้
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการนำออกซิเจนขึ้นเครื่อง กรุณาติดต่อสำนักงานสำรองที่นั่งหรือต้องการศูนย์บริการการบินไทย
ตัวอย่างทางชีวภาพ
เช่น เนื้อเยื่อ เลือด ที่ไม่ติดเชื้อ บรรจุในของเหลวไวไฟจำนวนเล็กน้อย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน IATA DGR Special provision: A180
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
ภาชนะหุ้มฉนวน ที่บรรจุสารให้ความเย็นยิ่งยวด เช่น ไนโตรเจนเหลว
เงื่อนไข
- ต้องมีวัสดุซึมซับเฉพาะเพื่อป้องกันการรั่วไหลออกจากภาชนะบรรจุ
- ใช้เพื่อให้ความเย็นกับวัตถุอื่น ๆ ที่มิใช่วัตถุอันตราย
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
เครื่องวัดอุณหภูมิ เทอร์โมมิเตอร์ ขนาดเล็ก หรือปรอทวัดไข้ที่ใช้ทางการแพทย์
เงื่อนไข
- อนุญาตให้นำไปได้ท่านละ 1 ชิ้นสำหรับใช้งานส่วนบุคคล
- ต้องบรรจุในกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อป้องกันการแตกหัก
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ไม่อนุญาต
ไม้ขีดไฟแบบแผง หรือไฟแช็คขนาดเล็ก
เงื่อนไข
- ใช้เชื้อเพลิงแบบก๊าซเหลว
- จุดประสงค์เพื่อใช้ส่วนตัว
- อนุญาตให้พกติดตัว 1 ชิ้น เท่านั้น
- เชื้อเพลิงสำหรับเติม ไม่อนุญาตในทุกกรณี
หมายเหตุ: ไม้ขีดไฟแบบ "Strike anywhere" ไฟแช็กแบบ "Blue flame" หรือ "Cigar" หรือไฟแช็กที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมที่ไม่มีฝาปิดนิรภัยหรืออุปกรณ์ป้องกันการเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาตให้ 1 ชิ้น/คน
แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมเมทัล หรือลิเธียมไอออน
สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์อิเลกโทรนิกส์พกพา หรือ สำหรับใช้เป็นแบตเตอรี่สำรอง หรืออุปกรณ์อื่นใดที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พลังงานไฟฟ้ากับอุปกรณ์อิเลกโทรนิกส์หรือเป็นแบตเตอรี่แบบถอดออกจากอุปกรณ์ได้
เงื่อนไข
- มีกำลังไฟไม่เกิน 100 Wh สำหรับแบตเตอรี่แบบลิเธียมเมทัลต้องมีปริมาณสารลิเธียมไม่เกิน 2 กรัม
- ตัวแบตเตอรี่ต้องจัดเก็บอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการลัดวงจร
- ผู้โดยสารสามารถนำแบตเตอรี่สำรองไปได้ไม่เกินท่านละ 20 ชิ้น
หมายเหตุ:
1) ปริมาณรวมของแบตเตอรี่สำรองหรือพาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุไม่เกิน 100 Wh. และที่มีความจุเกิน 100 ถึง 160 Wh ต้องไม่เกิน 20 ชิ้น
2) แบตเตอรี่สำรอง ที่ให้กำลังไฟเกิน 100 แต่ไม่เกิน 160 Wh
* วัตต์-ชั่วโมง (Wh) = แอมป์-ชั่วโมง (Ah) x โวลต์ (V)
** แบตเตอรี่ที่ไม่มีระบุประเภทแน่ชัดหรือค่าพลังงานไฟฟ้า (Wh) รวมถึงแบตเตอรี่ที่เสียหายหรือถูกเรียกคืน รวมถึงแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องทั้งในสัมภาระเช็คอินและสัมภาระถือขึ้นเครื่อง
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
กระเป๋าสัมภาระไฟฟ้า
เงื่อนไข
- แบตเตอรี่ที่ไม่สามารถถอดออกจากตัวกระเป๋าสัมภาระได้ ต้องมีปริมาณสารลิเธียมเมทัลไม่เกิน 0.3 กรัม สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมเมทัล และมีกำลังไฟไม่เกิน 2.7 Wh
- แบตเตอรี่ที่สามารถถอดออกจากตัวกระเป๋าสัมภาระได้ ต้องถอดออกหากนำสัมภาระไปเช็คอิน และต้องพกแบตเตอรี่ไปในห้องโดยสาร
การถือสัมภาระขึ้นเครื่อง:
- แบตเตอรี่ต้องถูกถอดออกจากสัมภาระก่อนที่จะทำการเช็กอิน และถือขึ้นเครื่อง
- ขนาดและน้ำหนักของสัมภาระต้องเป็นไปตามกฎของสายการบิน
การฝากสัมภาระใต้ท้องเครื่อง:
- แบตเตอรี่ต้องถอดออกจากกระเป๋า และถือแบตเตอรี่ขึ้นเครื่อง
- หากสัมภาระของท่านไม่เป็นไปตามข้อตกลงด้านความปลอดภัย ทางสายการบินจะปฏิเสธการรับสัมภาระของท่าน
*** ยานพาหนะขนาดเล็กส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม หรืออุปกรณ์ที่มีลักษณะใกล้เคียง รวมถึงอุปกรณ์เสริม ไม่อนุญาตในทุกกรณี ***
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
แบตเตอรี่สำรอง ที่ให้กำลังไฟเกิน 100 แต่ไม่เกิน 160 Wh
เงื่อนไข
- สำหรับให้พลังงานแก่อุปกรณ์อีเลกโทรนิกส์ส่วนบุคคล และเครื่องมือทางการแพทย์แบบพกพา
- แบตเตอรี่มีปริมาณสารลิเธียมเมทัลอยู่ระหว่าง 2 ถึง 8 กรัม ซึ่งอนุญาตเฉพาะเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างการเดินทางเท่านั้น
- สามารถนำไปได้ท่านละไม่เกิน 2 ก้อน
- ต้องป้องกันการลัดลงจรด้วย
หมายเหตุ: ปริมาณรวมของแบตเตอรี่สำรองที่มีกำลังไฟต่ำกว่า 100 Wh กับแบตเตอรี่สำรองที่มีกำลังไฟ เกิน 100 แต่ไม่เกิน 160 Wh จะต้องไม่เกิน 20 ชิ้น
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมเมทัล หรือลิเธียมไอออน เป็นแหล่งพลังงาน
เช่น กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์พกพา รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ขนาดพกพา เช่น เครื่อง Portable Oxygen Concentrators (POC)* เพื่อใช้เป็นการส่วนตัว ซึ่งไม่ใช่เพื่อการค้า
เงื่อนไข:
- ลิเธียมเมทัลแบตเตอรี่จะต้องมีปริมาณสารลิเธียมเมทัลไม่เกิน 2 กรัม หรือ ลิเธียมไอออนแบตเตอรี่จะต้องให้กำลังไฟไม่เกิน 100 Wh.
- จะต้องปิดอุปกรณ์ดังกล่าว ให้แน่ใจว่าจะไม่ทำงานเองระหว่างเที่ยวบินและต้องป้องกันความเสียหายอันเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ด้วย หากเก็บอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ในสัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง
- จำกัดจำนวนอุปกรณ์สูงสุด 15 ชิ้นต่อคน
- สัมภาระที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมที่ติดตั้งอยู่ (ยกเว้นแบตเตอรี่แบบปุ่ม) ต้องสามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้ หากนำสัมภาระไปเช็คอิน ต้องถอดแบตเตอรี่ออกและนำเข้าไปในห้องโดยสาร
หมายเหตุ: เครื่อง POC จะต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งนี้จึงจะสามารถบรรจุในสัมภาระ หรือใช้งานระหว่างเที่ยวบินได้
1. เครื่อง POC จะต้องมีฉลากจากโรงงานผู้ผลิตระบุข้อความดังต่อไปนี้ เป็นตัวอักษรสีแดง "The manufacturer of this POC has determines this device conforms to all applicable FAA acceptance criteria for POC carriage and use on board the aircraft“ หรือ
2. เครื่อง POC ดังกล่าวเป็นรุ่นที่ระบุตามรายการที่รับรองโดย FAA SFAR 106. โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่บรรจุแบตเตอรี่ลิเธียมอยู่ภายใน
เช่น เครื่องตรวจโลหะแบบพกพา อุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมสามารถรับได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจากการบินไทย
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
บุหรี่ไฟฟ้า
รวมถึงซิการ์ไฟฟ้า ไปป์ไฟฟ้า หรือเครื่องสูดไอระเหยส่วนบุคคลแบบไฟฟ้า ที่บรรจุแบตเตอรี่ลิเธียมอยู่ภายใน และต้องบรรจุอยู่ในหีบห่อหรือกล่อง เพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยมิได้ตั้งใจ สำหรับใช้งานส่วนบุคคลระหว่างเดินทางเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้งานหรือชาร์จ ตลอดเที่ยวบิน
หมายเหตุ:
- บุหรี่ไฟฟ้าหรือเครื่องสูดไอระเหยที่มีลักษณะใกล้เคียง ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าในราชอาณาจักรไทย (กฎหมายศุลกากร)
- จำนวนที่ผู้โดยสารจะนำไปได้ต้องรวมกับอุปกรณ์ PED อื่น ๆ แล้วไม่เกิน 15 ชิ้น
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
อุปกรณ์อีเลกโทรนิกส์แบบพกพา รวมถึงเครื่องมือทางการแพทย์แบบพกพา ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมเมทัล หรือ ลิเธียมไอออนเป็นแหล่งพลังงาน
เงื่อนไข
- แบตเตอรี่ดังกล่าวให้กำลังไฟเกิน 100 แต่ไม่เกิน 160 Wh หรือ
- แบตเตอรี่มีปริมาณสารลิเธียมเมทัลอยู่ระหว่าง 2 ถึง 8 กรัม ซึ่งอนุญาตเฉพาะเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างการเดินทางเท่านั้น
- หากเก็บอุปกรณ์ดังกล่าว ไว้ในสัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง จะต้องปิดอุปกรณ์ดังกล่าว โดยต้องให้แน่ใจว่าจะไม่ทำงานเองระหว่างเที่ยวบิน และต้องป้องกันความเสียหายอันเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ด้วย
* วัตต์-ชั่วโมง (Wh) = แอมป์-ชั่วโมง (Ah) x โวลต์ (V)
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ
เงื่อนไข
- อุปกรณ์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานตาม IATA DGR Special Provisions: A41
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ไม่อนุญาต
อุปกรณ์อีเลกโทรนิกส์แบบพกพา ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดเปียกที่ป้องกันการรั่วไหลเป็นแหล่งพลังงาน
เงื่อนไข
- แบตเตอรี่ต้องต้องเป็นไปตามมาตรฐาน IATA DGR Special provision: A67 มีกำลังไฟไม่เกิน 12 โวลต์ หรือต่ำกว่า 100 Wh
- อนุญาตให้นำไปได้พร้อมแบตเตอรี่สำรองไม่เกิน 2 ก้อน
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
พาวเวอร์แบงก์ หรือ อุปกรณ์สำรองไฟ
เงื่อนไข
- ให้กำลังไฟต่ำกว่าหรือเท่ากับ 100 Wh อนุญาตให้ท่านละไม่เกิน 20 ชิ้น
- ให้กำลังไฟเกิน 100 แต่ไม่เกิน 160 Wh อนุญาตให้ท่านละไม่เกิน 2 ชิ้น และต้องขออนุญาตจากการบินไทยก่อน*
- เพื่อใช้เป็นการส่วนตัว ซึ่งไม่ใช่เพื่อการค้า
* วัตต์-ชั่วโมง (Wh) = แอมป์-ชั่วโมง (Ah) x โวลต์ (V)
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
เครื่องกระตุ้นหัวใจ
เงื่อนไข
- ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม
- ฝังอยู่ภายในร่างกายหรือพกติดตัว
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาตให้พกติดตัวเท่านั้น
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาตให้พกติดตัวเท่านั้น
แบตเตอรี่ที่ชำรุด
หรือถูกเรียกคืนจากผู้ผลิตเนื่องจากสินค้ามีปัญหาด้านความปลอดภัย รวมถึงที่บรรจุอยู่ในอุปกรณ์อีเลกโทรนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์พกพาที่สินค้ามีปัญหาด้านความปลอดภัย
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ไม่อนุญาต
ยาหรือเครื่องสำอาง ที่ไม่มีสารกัมมันตรังสี รวมถึงสเปรย์ต่าง ๆ
เช่น สเปรย์ฉีดผม น้ำหอม สเปรย์กำจัดกลิ่นและยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, สเปรย์ฉีดพ่นสำหรับใช้ในการกีฬาหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านที่บรรจุก๊าซที่ไม่ติดไฟและไม่เป็นพิษ (Division 2.2) เท่านั้น
เงื่อนไข
- ผู้โดยสารสามารถนำขึ้นเครื่องได้ท่านละไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม หรือ 0.5 ลิตร ต่อหนึ่งรายการ
- น้ำหนักรวมทุกรายการ ไม่เกิน 2 กิโลกรัม หรือ 2 ลิตร ต่อผู้โดยสาร 1 ท่าน
- หัวฉีดสเปรย์จะต้องได้รับการปิดผนึกอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันการรั่วซึม
หมายเหตุ:
- ให้คำนึงถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับของเหลว เจล สเปรย์ (The LAGS regulations) ด้วย
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
กระบอกอัดก๊าซขนาดเล็กที่มีความจุของกระบอกไม่เกิน 50 มิลลิลิตร
เงื่อนไข
- บรรจุก๊าซแบบไม่ติดไฟ เช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ก๊าซที่ไม่ติดไฟชนิดอื่น ๆ และไม่เป็นก๊าซพิษ
- อาจบรรจุในเสื้อชูชีพชนิดพองลมได้เอง
- อนุญาตให้นำไปได้ท่านละ 2 กระบอกที่ติดรวมอยู่กับอุปกรณ์ และ 2 กระบอกสำหรับสำรอง
- รวมทั้งสิ้นท่านละ 4 กระบอก
- อนุญาตให้นำอุปกรณ์ชนิดนี้ไปได้ท่านละไม่เกิน 1 ชิ้น
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ต้องขออนุญาต
อุปกรณ์ดัดผมที่ใช้ความร้อนจากก๊าซประเภทไฮโดรคาร์บอน
เงื่อนไข
- อนุญาตให้นำไปได้ท่านละ 1 ชิ้น
- จะต้องมีฝาครอบตัวทำความร้อนอยู่ด้วย
- ไม่อนุญาตให้ใช้งานตลอดเที่ยวบิน
- ก๊าซสำหรับเติมไม่อนุญาตให้นำไปด้วยในทุกกรณี
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
ถุงลมนิรภัยที่บรรจุอยู่ในวัตถุต่าง ๆ อาทิเช่นในกระเป๋าเป้กู้ภัย (Avalanche rescue backpack)
เงื่อนไข
- สูงสุด 1 ชิ้นต่อผู้โดยสาร
- ถุงลมเหล่านี้ต้องบรรจุก๊าซที่ไม่ติดไฟ ไม่เป็นพิษ
- อาจมีตัวจุดระเบิดและเชื้อปะทุตาม Division 1.4 S มีน้ำหนักไม่เกิน 200 มิลลิกรัม
- เป้ต้องถูกจัดเก็บในลักษณะที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้โดยบังเอิญ
- วัตถุที่บรรจุถุงลมนิรภัยจะต้องจัดเก็บอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้ถุงลมทำงาน
- ต้องมีวาล์วเพื่อปล่อยความดันอากาศที่เกิดขึ้นติดตั้งอยู่ด้วย
- ต้องขออนุญาตล่วงหน้าก่อนเดินทางมาที่สนามบิน (อย่างน้อย 7 วันทำการ)
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ต้องขออนุญาต
เซลล์เชื้อเพลิง
สำหรับให้พลังงานแก่อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบพกพา เช่นกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์พกพา
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ เครื่องยนต์ใช้เซลล์เชื้อเพลิง
เงื่อนไข
- เครื่องยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน IATA DGR Special Provisions: A70
- ต้องไม่มีเชื้อเพลิงตกค้างภายในเครื่องยนต์
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ไม่อนุญาต
เตาแคมปิ้ง รวมถึงภาชนะบรรจุเชื้อเพลิงที่มีเชื้อเพลิงเหลวติดไฟบรรจุอยู่
เงื่อนไข
- จะต้องกำจัดเชื้อเพลิงที่อยู่ในถังออกให้หมด
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องอนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: ไม่อนุญาต
เซลล์เชื้อเพลิงสำรอง สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
กระบอกก๊าซประเภทไม่ติดไฟและไม่เป็นพิษ
ใช้สำหรับผู้พิการที่ต้องใช้แขนหรือขาเทียม รวมถึงกระบอกก๊าซสำรองในขนาดที่ใกล้เคียง ถ้าต้องการใช้เพื่อให้เพียงพอตามระยะเวลาของการเดินทาง
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง: อนุญาต
สารเคมีต่าง ๆ ทั้งชนิดผง หรือ ของเหลว สำหรับใช้งานส่วนตัวหรือเพื่อการค้า ยกเว้นแต่ที่ระบุในตารางรายการสิ่งของที่การบินไทยอนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวหรือใส่ไว้ในสัมภาระได้
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
อาหาร หรือเครื่องดื่มชนิดอุ่นร้อนได้ด้วยตัวเอง และอาหารพร้อมรับประทาน (MRE) ที่บรรจุสารให้ความร้อนแบบปราศจากเปลวไฟ หรือ สารที่ให้ความร้อนสูงเมื่อสัมผัสความชื้น หรือน้ำ
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
อุปกรณ์ที่ให้ความร้อนสูง
เช่น ไฟฉายใต้น้ำ หรือหัวแร้งบัดกรี ต้องจัดเก็บในกล่องและแยกบรรจุแหล่งพลังงานเพื่อป้องกันการเปิดใช้งานโดยมิได้ตั้งใจ
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ต้องขออนุญาต
อุปกรณ์ตรวจจับสารเคมี
เงื่อนไข
- อนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่จากองค์การที่เกี่ยวข้องกับการห้ามใช้อาวุธเคมีเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
- ต้องขออนุญาตล่วงหน้าก่อนเดินทางมาที่สนามบิน (อย่างน้อย 7 วันทำการ)
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ต้องขออนุญาต
อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เช่นกล่องเงินสด ถุงเงินสด ที่มีส่วนประกอบเป็นแบตเตอรี่ลิเธียม หรือ เชื้อปะทุต่าง ๆ
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
น้ำแข็งแห้ง (คาร์บอนไดออกไซด์ชนิดแข็ง)
เงื่อนไข
- อนุญาตให้นำไปได้ท่านละ 1 ชิ้นสำหรับใช้งานส่วนบุคคล
- น้ำแข็งแห้งต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 2.5 กิโลกรัมต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน
- หีบห่อบรรจุจะต้องให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระเหิดออกได้
- ใช้เพื่อให้ความเย็นกับสิ่งของที่ไม่เป็นวัตถุอันตรายเท่านั้น
- ต้องมีการทำเครื่องหมาย "Dry Ice" หรือ "Carbondioxide, Solid" กำกับพร้อมระบุน้ำหนักรวมของน้ำแข็งแห้งหรือเครื่องหมายระบุว่าน้ำแข็งแห้งนั้น มีน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัมหรือน้อยกว่า
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ต้องขออนุญาต
เครื่องวัดอุณหภูมิ เทอร์โมมิเตอร์ ขนาดเล็ก หรือปรอทวัดไข้ที่ใช้ทางการแพทย์
เงื่อนไข
- อนุญาตให้นำไปได้ท่านละ 1 ชิ้นสำหรับใช้งานส่วนบุคคล
- ต้องบรรจุในกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อป้องกันการแตกหัก
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
เครื่องวัดอุณหภูมิ เทอร์โมมิเตอร์ ขนาดใหญ่ หรือเครื่องวัดความดันอากาศ ที่บรรจุปรอทไว้ภายใน
ต้องบรรจุในกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อป้องกันการแตกหัก อนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยา หรือหน่วยงานอื่นที่มีลักษณะงานใกล้เคียง
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ต้องขออนุญาต
อุปกรณ์ประเภทความปลอดภัยที่มีแบตเตอรี่ลิเธียม
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
ยานพาหนะส่วนบุคคล
ยานพาหนะส่วนบุคคล หรือ สเก็ตไฟฟ้า สเก็ตบอร์ดไฟฟ้า หรือยานพาหนะขนาดเล็กอื่น ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียง ใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ลิเธียม รวมทั้งอุปกรณ์เสริม อื่น ๆ ซึ่งไม่ถือเป็นอุปกรณ์ช่วยสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนที่
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ไม่อนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
อุปกรณ์ช่วยสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนที่เช่นวิลแชร์ ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ชนิดเปียกที่ไม่ป้องกันการรั่วไหล หรือลิเธียมไอออนแบตเตอรี่
เงื่อนไข
- อนุญาตให้นำไปได้ และในบางกรณีอาจต้องแยกตัวแบตเตอรี่ ไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงพร้อมทั้งใส่วัสดุซึมซับเฉพาะสำหรับสารกัดกร่อนที่อาจรั่วไหลออกมา
- แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมจะต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน UN Manual of Tests and Criteria, Part III, subsection 38.3
- อุปกรณ์ช่วยสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนที่เช่นวีลแชร์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ซึ่งได้รับการออกแบบให้สามารถถอดแยกแบตเตอรี่ออกจากอุปกรณ์ได้นั้น จะต้องแยกแบตเตอรี่ออกจากตัวอุปกรณ์และ นำแบตเตอรี่ดังกล่าวบรรจุในสัมภาระถือขึ้นเครื่อง (Carry-on Baggage) ซึ่งขนาดความจุแบตเตอรี่ได้ไม่เกิน 300 Wh
- แบตเตอรี่สำรองสามารถนำขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น สำหรับความจุแบตเตอรี่ไม่เกิน 300 Wh และ 2 ชิ้นสำหรับแบตเตอรี่ความจุไม่เกิน 160 Wh
หมายเหตุ: ตัวอย่างของแบตเตอรี่ชนิดเปียกที่ไม่ป้องกันการรั่วไหลคือแบตเตอรี่ชนิดที่มีฝาเปิดด้านบนเพื่อเติมน้ำกรด (สารกัดกร่อน) เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในการสร้างกระแสไฟฟ้า
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต
อุปกรณ์ช่วยสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนที่เช่นวิลแชร์ ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ชนิดเปียกที่ไม่ป้องกันการรั่วไหล หรือลิเธียมไอออนแบตเตอรี่
เงื่อนไข
- อนุญาตให้นำไปได้ โดยแนะนำให้ตัดวงจร หรือ ปลดขั้วแบตเตอรี่พร้อมทั้งห่อหุ้มขั้วแบตเตอรี่ให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการลัดวงจร แบตเตอรี่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน IATA DGR Special provision: A123 หรือ A199
- รวมถึงแบตเตอรี่ประเภท AGM, absorbed glass mat, gel battery, gel cell, sealed lead-acid (SLS), dry and dry cell
- ของเหลวที่อยู่ในแบตเตอรี่จะต้องไม่รั่วซึมเมื่อแบตเตอรี่แตกหักเสียหาย
- แบตเตอรี่ต้องผ่านการทดสอบการสั่นสะเทือนและการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ
หมายเหตุ: ตัวอย่างของแบตเตอรี่ต้องเป็นตามมาตรฐาน IATA DGR Special provision: A123 หรือ A199 เช่น แบตเตอรี่อัลคาไลน์แมงกานีส หรือ แบตเตอรี่ซิงก์-คาร์บอน หรือ แบตเตอรี่นิกเกิล-แคดเมียม หรือ แบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัลไฮดรายด์
สัมภาระฝากใต้ท้องเครื่อง: ต้องขออนุญาต
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง : ไม่อนุญาต